ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ได้มีการนำความรู้ วิทยาการสมัยใหม่ ตลอดจนศิลปวัฒนธรรมต่างๆ จากประเทศทางตะวันตกเข้ามาเผยแพร่ พระองค์ทรงศึกษาวิชาการต่างประเทศ จากการเสด็จประพาสสิงคโปร์ อินเดีย ยุโรป อันส่งผลให้เกิดการพัฒนาชาติบ้านเมืองให้เทียบเท่ากับประเทศทางตะวันตก มีการปรับตัวและการเปลี่ยนแปลงในสังคมไทยไปสู่ความเจริญและความทันสมัยอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน แม้แต่เครื่องปั้นดินเผาที่ใช้ในราชสำนักก็เช่นกัน ในสมัยนี้เองพบว่า มีการนำเครื่องปั้นดินเผาจากประเทศทางตะวันตกมาใช้งาน ดังที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงพระนิพนธ์ไว้ในหนังสือเรื่อง ตำนานเรื่องเครื่องโต๊ะและเครื่องถ้วยปั้น ความว่า
"เครื่องถ้วยที่มีเข้ามาในเมืองไทย เมื่อในรัชกาลที่ ๕ มีมากทั้งเครื่องถ้วยจีน เครื่องถ้วยญี่ปุ่น และเครื่องถ้วยฝรั่ง ใช้เป็นเครื่องใช้และเป็นเครื่องตกแต่งบ้านเรือนทั้ง ๓ อย่าง จานชามเครื่องใส่กับข้าวของกิน ผู้ดีมักใช้เครื่องถ้วยฝรั่ง ใช้ของตามรูปและลวดลายฝรั่งโดยมาก...”
นอกจากนี้ยังพบว่า มีการสั่งทำชุดเครื่องถ้วยเบญจรงค์และลายน้ำทองจากประเทศฝรั่งเศส หรือที่เรียกว่า "เครื่องถ้วยจักรี” สำหรับเป็นของพระราชทานอีกด้วย
"เครื่องถ้วยจักรี” เป็นเครื่องถ้วยเบญจรงค์และลายน้ำทอง ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงมอบหมายให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงสรรพศาสตร์ศุภกิจสั่งทำจากโรงงานแซฟวร์ (Servres) ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเครื่องกระเบื้องประจำราชสำนักฝรั่งเศส ในระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๓๐ เพื่อพระราชทานเป็นของที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงพระศพพระอรรคชายา พระราชโอรส และพระราชธิดา รวม ๔ พระองค์ ณ พระเมรุท้องสนามหลวง ที่สิ้นพระชนม์ภายในปีเดียวกัน ได้แก่
๑. พระอัครชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคนารีรัตน์ สิ้นพระชนม์เมื่อ ๒๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๓๐
๒. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพาหุรัดมณีมัย สิ้นพระชนม์เมื่อ ๒๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๓๐
๓. สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าตรีเพ็ชรุตม์ธำรง สิ้นพระชนม์เมื่อ ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๓๐
๔. สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ สิ้นพระชนม์เมื่อ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๓๐
เครื่องถ้วยจักรี จัดอยู่ในหมวดหมู่เครื่องกระเบื้องเนื้อพอร์ซเลน (Porcelain) อันเป็นเครื่องถ้วยเคลือบที่เผาในอุณหภูมิสูง และเคลือบได้สีต่างๆ มากขึ้น ถือเป็นเครื่องกระเบื้องแบบฝรั่งเขียนสีและลายน้ำทอง มีลักษณะเป็นถ้วยตวง หรือถ้วยชาทรงบัว มีฝาจุกทรงวงแหวนเขียนขอบสีทอง ภายในวงแหวนเขียนรูปจักรและรูปตรี สัญลักษณ์ของราชวงศ์จักรี อันเป็นที่มาของชื่อเรียกเครื่องถ้วยชนิดนี้ว่า "เครื่องถ้วยจักรี" ตัวถ้วยและฝาเขียนลายดอกเดซี่ (Daisy) แบบฝรั่ง ที่ลวดลายดอกและใบตัดเส้นด้วยสีทอง เกสรตามสีพื้น กลีบดอกสีขาว สำหรับชุดสีทองและสีเงินนี้กลีบดอกไม้จะมีสี
เครื่องถ้วยจักรี มีพื้นสีต่างๆ กัน ๙ สี ได้แก่ สีแดง สีเหลือง สีชมพู สีเขียว สีขาว สีฟ้า สีดำ สีทอง และสีเงิน โดยทรงสั่งทำเป็น ๒ ขนาด ได้แก่
๑. ชุดขนาดมาตรฐาน สำหรับพระราชทานเจ้านายหรือขุนนางชั้นสูง ซึ่งเป็นผู้ใหญ่
๒. ชุดขนาดเล็กกว่าชุดขนาดมาตรฐาน หรือที่เรียกว่า "ชุดเจ้าฟ้า” สำหรับพระราชทานเจ้านายฝ่ายในและเจ้านายที่ยังทรงพระเยาว์
๑. แบบตะกร้าหวายสาน มีหู ๒ หู ทำจากเงินหรือกะไหล่ทอง ตรงกลางถาดมีลิ้นหรือแผ่นรองฉลุข้อความว่า "งานพระเมรุ ท้องสนามหลวง ปีกุน ๑๒๔๙” และมีอักษรไขว้ ศ ร ก
๒. แบบถาดทรงกลม ตัวขอบถาดสูงตกแต่งด้วยลายลงยาดอกเดซี่แบบเดียวกับลายถ้วยชา ขาถาดเป็นขาปุ่มกลม ๔ ขา ตรงกลางถาดมีลิ้นหรือแผ่นรองรูปกลม ตรงกลางฉลุโปร่ง ลายอักษรพระปรมาภิไธย จปร.
เครื่องถ้วยจักรี สามารถแบ่งรูปแบบการจัดวางแบบชุดน้ำชา ได้ ๔ แบบ ดังนี้
๒. ชุดเครื่องจีโบ[๑] ประกอบด้วย ถาดรอง ปั้นชาแบบปั้นเท้าปุ่มพร้อมจานรองปั้น ๑ คู่ ถ้วยทรงจีโบพร้อมฝาสำหรับชงชา ๒ ใบ และถ้วยทรงจีโบพร้อมฝาขนาดเล็ก สำหรับตวง ๔ ใบ
๓. ชุดแบบจีน ประกอบด้วย ถาดรอง ถ้วยชงชาพร้อมฝาทรงจีโบ ๑ ใบ อ่างรองถ้วยชงชาทรงบัว ๑ ใบ และถ้วยตวงหรือถ้วยน้ำชาไม่มีฝา ๔ ใบ
๔. ชุดดาวล้อมเดือน ประกอบด้วย ถาดรอง ปั้นชาแบบปั้นเท้าปุ่ม พร้อมจานรองปั้น ๑ คู่ไว้ตรงกลางถ้วยตวงหรือถ้วยน้ำชาทรงบัวมีฝา ๘ ใบ ล้อมรอบ ส่วนใหญ่เป็นชุดเจ้าฟ้า
"เครื่องถ้วยจักรี” ถือเป็นทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดิน ที่แสดงให้เห็นถึงพระราชนิยมในศิลปะตะวันตกของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อีกทั้งยังเป็นศิลปวัตถุชิ้นสำคัญที่สามารถอธิบายเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นๆ ได้เป็นอย่างดี